Sleep Mode
Sleep mode เป็นการประหยัดพลังงานคล้ายๆ กับการกดปุ่ม pause ในเครื่องเล่น DVD การทำงานต่างๆ ในคอมพิวเตอร์จะถูกหยุดลง และเอกสารที่เปิดทิ้งไว้ก็จะถูกจัดเก็บไว้ในหน่วยความจำหลัก ซึ่งคุณสามารถเริ่มการทำงานต่อจากนั้นได้โดยง่ายในเวลาไม่กี่วินาที กล่าวคือมันก็คือโหมด “Standby” ที่เคยเห็นใน xp นั่นเอง
Hibernate
โหมด Hibernate แปลตรงตัวก็คือโหมดจำศิลนั่นเอง เป็นการปิดโปรแกรมเอกสารทุกอย่างลง และปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แสดงว่าหากอยู่ในโหมด Hibernate คอมพิวเตอร์ก็จะมีการใช้พลังงานเป็น 0 และเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นอย่างเดิมแต่ใช้เวลาพอๆ กับการเปิดเครื่องจริงๆ เลย
Hybrid Sleep
Hybrid Sleep เป็นโหมดที่รวมกันระหว่าง Sleep และ Hibernate สามารถใช้ได้ในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โดยจะนำข้อมูลเอกสารและโปรแกรมต่างๆ ที่เปิดอยู่ใส่ลงไปในหน่วยความจำหลักและฮาร์ดดิสก์ จากนั้นคอมพิวเตอร์ของคุณก็จะเข้าสู่สภาวะการใช้พลังงานอย่างต่ำ และใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการกลับมาใช้งานอีกครั้ง โหมด Hybrid Sleep จะถูกเปิดการใช้งานไว้ในเครื่องเดสก์ท็อป PC แต่สำหรับแล็ปท็อปจะถูกปิดการใช้งานไว้ กล่าวคือหากคุณใช้งานเครื่องเดสก์ท็อปเวลาเข้าสู้โหมด sleep ก็จะเป็นการเช้าสูโหมด Hybrid Sleep แทน แต่หากเป็นเครื่องแล็ปท็อปหรือโน็ตบุ๊คที่รู้จักกันดีนั้น ก็จะเป็นการเข้าสู่โมหด sleep ธรรมดานั่นเอง
Hybrid Sleep จะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเกิดไฟดับขึ้น ซึ่งเมื่ออยู่ในโหมดนี้ต่อให้ไฟดับนานเท่าไร่ก็ตาม Windows ก็สามารถคืนสภาพกลับไปยังการทำงานเดิมได้เสมอ
ตัวเลือกเข้าโหมดพวกนี้มันอยู่ไหนกัน ?
ตัวเลือก Sleep และ Hibernate นั้นจะเป็นปุ่มตัวอักษรที่อยู่ถัดจากปุ่ม Shut down ใน Start menu นั่นเอง
หากคุณไม่เจอปุ่มตัวเลือกดังกล่าว อาจเกิดมาจากสาเหตุดังนี้
- การ์ดจอของคุณอาจไม่รองรับการทำงานใน Sleep mode
- คุณอาจเข้าใช้งานคอมพิวเตอร์ในรูปแบบที่ไม่ใช่ administrator
- โหมดประหยัดพลังงานอาจถูกปิดโดยตรง จากตัว BIOS
แล้วหากต้องการเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานต่อล่ะ ?
คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่นั้น สามารถเปิดเพื่อกลับมาใช้งานได้โดยการกดที่ปุ่มเปิดนั่นเอง อย่างไรก็ตาม คอมแต่ล่ะเครื่องมีความแตกต่างกัน คุณอาจต้องกดที่แป้นคีย์บอร์ด หรือคลิกเม้าส์ หรืออาจจะต้องยกฝาแล็ปท็อปขึ้นก่อนก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่โปรดศึกษาในคู่มือก่อนนะครับ
วิธีเปิดและปิดโหมด Hybrid Sleep
สำหรับเครื่องที่ต้องการเปิดโหมดนี้ ขั้นแรกให้ไปที่ Control Panel ใน Start menu
คลิกที่ Power Options ในหน้าต่าง Control Panel (หากไม่เจอก็ให้เปลี่ยนรูปแบบการมองเป็น Large icons ก็จะเจอทันที)
ในหน้าของ power plan คลิก Change plan settings ตามรูป
หน้า Change settings for the plan ก็คลิกที่ Change advanced power settings ต่อไปได้เลย
กล่องไดอะล็อก Power Options ก็จะขึ้นมา คลิกที่ Change settings that are currently unavailable
ดับเบิ้ลคลิกที่ตัวเลือก Sleep จากนั้นดับเบิ้ลคลิกที่ hybrid sleep อีกครั้งนึง และเลือก Off จากเมนู ดรอป-ดาวน์ ทั้ง 2 เมนู ตามรูป
โดยปกติ Windows จะถามหารหัสผ่านเมื่อคุณเปิดคอมพิวเตอร์หลังจากอยู่ในโหมดประหยัดพลังงานต่างๆ คุณสามรถปิดฟีเจอร์นี้ได้ โดยให้ไปที่ตัวเลือกด้านบนสุดในหน้า Power Options แล้วเลือก No ในเมนู ดรอป-ดาวน์
เมื่อปรับแต่งสำเร็จแล้วก็ให้คลิกที่ OK และปิดหน้าต่างทั้งหมดลงก็เป็นอันเสร็จ
วิธีป้องกันการเข้าสู้โหมด Sleep หรือ Hibernate
เป็นการปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ล่ะบุคคล โดยจะกำหนดระยะเวลาก่อนที่เครื่องจะทำการเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานต่างๆ
ไปที่ Power Options จาก Control Panel เหมือนเดิม จากนั้นให้คลิกที่ Change advanced power settings
โดยในส่วนนี้ก็จะมีตัวเลือก Sleep และ Hibernate ที่ใช้ในการปรับแต่ง ซึ้งจะมีเมนูการปรับแต่งย่อยในแต่ล่ะตัวเลือก จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนนั่นก็คือ On battery (ค่าเวลาเมื่อถอดปลั๊กใช้งานแบตเตอรี่) และ Plugged (ค่าเวลาเมื่อเสียบปลั๊กอยู่)
ดับเบิ้ลคลิกที่ตัวเลือก Sleep และดับเบิ้ลคลิกที่ตัวเลือก Sleep after หากคุณใช้งานแล็ปท็อป ให้กำหนดเวลาที่เมนู On battery ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นับจากการใช้ง่านล่าสุดและจะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน และที่เมนู Plugged ให้เลือก Never
หากเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปก็ควรเลือกให้ Plugged เป็น Never
และก็ทำเช่นเดียวกันนี้ในการกำหนดค่าของ Hibernate ในตัวเลือก Hibernate after
อันต่อมา หากคุณต้องการกำหนดระยะเวลาก่อนที่หน้าจอจะดับลง ก็ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ตัวเลือก Display จากนั้นก็ดับเบิ้ลคลิกที่ Turn off display after แล้วก็กำหนดค่าที่ต้องการได้เลยทั้ง On battery และ Plugged
เพียงเท่านี้ทุกคนก็สามารถเข้าใจและปรับแต่งค่าต่างๆ ในโหมดประหยัดพลังงานได้อย่างชาญฉลาดแล้ว
แถมให้อีกนิด ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโหมดประหยัดพลังงานนั่นก็คือ Hibernate เพราะว่าเมื่อเทียบกับโหมดอื่นๆ ใช้พลังงานน้อยกว่ามาก แต่ก็แลกมาด้วยระยะเวลาในการกลับมาทำงานที่นานนิดนึง ทั้งนี้ก็อยู่กับการใช้งานแต่ล่ะบุคคลครับผม
ขอขอบคุณ http://www.howtogeek.com/
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment